คำสอนขององค์พระศรีอริยเมตไตรย์...จากหนังสือธรรมมะ

ผมนำมาจากหนังสือธรรมนะครับ...ด้วยฤทธานุภาพแห่งองค์พระศรีอริยเมตไตรย์ ซึ่งได้เสวยสุขอยู่บนสวรรค์ได้เล็งเห็นความลำบากของมวลมนุษย์ทุกชาติ ทุกเผ่าพันธุ์จึงทรงแปลงกายเป็นมนุษย์และให้คำสอนไว้ดังนี้เพื่อการหลุดพ้นและไปยังสถานที่ธรรม

1.ให้ตั้งมั่นในศีล 5 ให้ครบถ้วนบริบูรณ์
2.รักใคร่เมตตาต่อสัตว์และเพื่อนมนุษย์
3.ผู้เป็นลูกจักต้องกตัญญูรู้คุณ และเชื่อฟังพ่อแม่ ถ้าไม่ทำตามจะมีกรรมและเห็นผลทันตา
4.ไม่พูดมาก พูดโกหก พูดจาไร้สาระ
5.รู้จักยับยั้งชั่งใจ
6.ทำใจให้สงบ คิดว่าควรปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นเสมอ
7.มีนิสัยเสียสละ ใจคอกว้างขวาง
8.รู้จักให้อภัย
9.เป็นคนมัธยัสถ์
10.การกินเนื้อสัตว์โดยผ่านการฆ่ามาแล้วเป็นบาป จะทำให้อายุสั้นและมีโรคภัยไข้เจ็บ
11.ให้หมั่นฟังเทศน์ ฟังธรรม
12.ประกอบอาชีพสุจริต ไม่เบียดเบียนใคร
13.ผู้ที่มีครอบครัวต้องรักกัน ไม่นอกใจกันและกัน
14.ทำสิ่งใดก็ตามต้องใช้ปัญญาไตร่ตรอง
15.คบเพื่อนต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต
16.ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร

ทำตามนี้ไม่ลงอบายภูมิแน่นอนครับ และอนาคตก็จะต้องได้ไปนิพพานฮะ

การหมกหมุ่นอยู่ในกาม


จิต ที่หลงอยู่ในกามคุณทั้ง 5 ย่อมทำให้สัตว์โลก ทะยานอยาก และเร่าร้อน

เต็มไปด้วยไฟแห่งราคะ เราจะทุกข์ทนไปกับการแสวงหาสิ่งที่จะมาตอบสนอง

ความต้องการของร่างกายและจิตใจ ไปอย่างไม่มีวันอิ่ม ไม่มีวันพอ

ซ้ำยังเป็น นิวรณ์ข้อหนึ่ง ซึ้งจะกางกั้น ไม่ให้ใจ เป็นสมาธิได้

จริงๆแล้ว คุณเลือกได้ครับ ถ้าตั้งใจว่าจะไม่ดูภาพลามก หรือ ไม่กระทำเพื่อบรรลุ

กิจกรรมทางเพศใดๆ มันก็เป็น ศีล ขึ้นมาในใจแล้วข้อนึง

(แต่จริงๆการเสพเมถุนธรรม หรือเหล่า ฆารวาสธรรมใดๆ เป็นเรื่องธรรมดา

ของมนุษย์ปถุชนครับ อันนี้เลือกเอาเองครับ ไม่มีความเห็น แล้วแต่จะทำ)

ศีล อีกข้อ ก็คือ มุสาวาท หรือ สัจจะ กับตัวเอง ก็จะมีขึ้นมาครับ

ในส่วนตัวผมเลือกที่จะสวนกระแสของโลก หรือ สวนกระแสความเห็นของสังคม

ก็คือ เลือกที่จะไม่มีคู่ ไม่มีความรัก ทั้งๆที่ยังตัดอะไรไม่ได้เลย และแรกๆก็ต้องฝืนทั้งสังคม

ที่มีข้อคิดเห็นต่างๆนาๆ ทั้งถูกประชดให้ไปบวชต่างหาก (จริงๆอย่าเอาการบวชมาเล่นนะครับ)

อีกอย่างคือ ความรัก ความต้องการในเพศตรงข้าม ยังมีเป็นปรกติ มันก็ทรมาน เป็นทุกข์

นะครับ เพราะเราจะเห็นว่า ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ตามนั้น ไม่ได้มองว่าเป็น อนัตตาเลย

ก็ทนๆทำไปน่ะครับ จมบ้าง พ้นน้ำบ้าง ทุกข์บ้าง สุขบ้าง ตามชีวิตที่สวนกระแส

แต่ มีอะไรๆ ที่พิเศษ เข้ามาใน ชิวิต มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แต่ ปัญญา กับสมาธิ

เราสามารถสัมผัส และรับรู้สิ่งที่ เกินกว่าสมมุติ จะมาอธิบายได้ครับ

กับสิ่งที่เราทำ ก็ได้รับสิ่งที่ เกินกว่า สิ่งทีเราละทิ้งมันออกไป สำหรับผมเอง เกินคุ้ม

จนวันนี้ ผมก็ยังปฏิบัติอยู่ และจะฝึกฝนตัวเองต่อไป ทั้ง สมถะ และวิปัสสนา

..........ไปตามที่ตั้งใจเอาไว้ ใครจะว่าอย่างไร ก็แล้วแต่ครับ ชิวิตใครก็เลือกเอาเอง


อนุโมทนาครับ

เวรกรรมมีจริงไม่ต้องชาติ (วางยาสุนัข)



ลุงเปี๊ยกแกเป็นคนที่ฐานะร่ำรวยมากบ้านแกอยู่ติดวัด แต่แกไม่ค่อยชอบสุนัขสักเท่าไร แกชอบใช้หนังสติกยิงไล่พวกมันอยู่ตลอด ครั้งหนึ่งแกเคยทะเลาะกับท่านเจ้าอาวาสเกี่ยวกับเรื่องหมาวัดมาขี้หน้าบ้านแก ถึงขนาดเอายางรถยนต์มาวางขวางทางไม่ให้พระบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านแก สาเหตุเพราะแกโมโหที่หมาวัดมาขี้หน้าบ้านแก ฝ่ายเจ้าอาวาสท่านก็ใจดีหาขวดมาใส่น้ำแล้วเอาไปตั้งเป็นแถวยาวถึงหน้าบ้านลุงเปี๊ยก ป้องกันไม่ให้หมามาขี้หน้าบ้านโยม พอลุงเปี๊ยกแกมาเห็นแกก็โวยวายใหญ่เลยหาว่าเจ้าอาวาสเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้านแก ลุงเปี๊ยกแกเลยโมโหขึ้นมาใหญ่เลย พอตกกลางคืน แกเอาลูกชิ้นทอดคลุกกับยาเบื่อ แล้วไปโยนให้หมากิน พอรุ่งเช้ามา หมาในวัดทั้ง 26 ตัว ตายเกลี้ยง นอนอ้าปากน้ำหลายไหล บางตัวดูเหมือนว่าก่อนตายมีรอยดิ้นทุลนทุลายเป็นวงกว้างด้วย ชาวบ้านพอรู้ข่าวต่างก็สาปแช่งคิดว่าจะมีโจรมาลักของวัด แต่หารู้ไหมว่าเป็นฝีมือของลุกเปี๊ยกเอง พอผ่านมาปีกว่าๆ ลุงเปี๊ยกแกก็ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่คอระยะสุดท้ายไม่สามารถรักษาได้ แกน่าสงสารมากๆได้แต่นอนรอวันตาย ด้วยความที่แกปวดแกจะร้องดังมากร้องโอยๆอยู่ตลอดเวลา เวลาแกปวดจนทนไม่ไหวแกจะดิ้นไปดิ้นมาจนลูกเมียแกต้องจับแกมัดมือมัดขาไว้ไม่ให้แกดิ้นได้ แกทรมานอยู่อย่างนี้ถึง 8 เดือนเต็ม กินอะไรก็ไม่ได้ แกร้องบอกว่าเหมือนอาหารมันเข้าไปบาดคอ จนสุดท้ายแกให้เมียของแกไปนิมนต์ท่านเจ้าอาวาสมา แล้วสารภาพเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง ท่านก็กล่าวอโหสิกรรมแทนให้กับหมาที่ถูกวางยา แล้วแกก็ขาดใจเสียชีวิต ในโลกแห่งความเป็นจริงของมนุษย์แกคงได้ชดใช้ให้กับ 26 ชีวิตที่แกวางยาแล้ว แต่ในโลกของวิญญาณ แกคงกำลังชดใช้อยู่ สาธุ
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมอยากจะนำมาเล่าให้ทุกคนฟัง
ว่ากรรมใดใครก่อ ผู้นั้นย่อมเป็นผู้รับ 
ไม่มีสิ่งใดจะมาทดแทนกันได้นอกจากความเมตตาต่อกัน
นนท์
(องค์ชายสาม)

ผลกรรมของการทำบุญแล้วนึกเสียดายภายหลัง

พระเจ้าปเสนทิโกศล สงสัยว่า อาคันตุกะเศรษฐีทำบุญอะไรมาใน
อดีตชาติ จึงร่ำรวยมหาศาลกว่าใครในแผ่นดิน แต่เวลาตายไปกลับ
ไม่มีทายาทสืบสกุลเลย ทรัพย์สมบัติทั้งหมดต้องตกเป็นของหลวง
ซึ่งต้องใช้ทหารเป็นกองทัพขนเข้ามาเก็บไว้ในท้องพระคลัง ๗ วัน
จึงขนเสร็จ

ทำบาปอะไร จึงใช้ทรัพย์สมบัติของตนเองไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น
อาหารการกิน ของใช้ เสื้อผ้าที่นุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยาน
พาหนะ

อาหารดีเลิศมากมายที่เป็นของดีเลศรสทั้งจากในเมืองและจากต่าง
เมือง แต่อาคันตุกะเศรษฐีก็กินไม่ได้เลย กินได้แต่ปลายข้าวกับน้ำ
ผักกาดดองเท่านั้น ผ้าเนื้อดีเยี่ยมที่มีอยู่ในเมืองและที่นำมาจากต่าง
เมืองก็มีมากมายมหาศาล แต่กลับเอามานุ่งห่มไม่ได้เลย ต้องนุ่งห่ม
ผ้าดิบที่แข็งกระด้าง เพราะมีอาการแพ้เป็นผื่นไม่สบายกาย
คฤหาสน์ใหญ่โตรโหฐาน ก็อยู่ไม่ได้ ต้องไปอยู่กระท่อมเล็กๆ มุง
ด้วยใบไม้ พาหนะอย่างหรูราคาแพงประดับด้วยอัญมณีผสมทองคำก็
นั่งไม่ได้ ฉัตรทองคำอย่างดีก็ใช้ไม่ได้

องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ตรัสตอบข้อสงสัยของพระราชาว่า "ขอ
ถวายพระพรมมหาบพิตร อาคันตุกะเศรษฐีได้ทำเหตุไว้ คือ ทำ
เหตุให้ได้ทรัพย์ ๑ และทำเหตุให้ไม่สามารถจะใช้ทรัพย์นั้นได้ ๑"

เหตุที่มีทรัพย์สมบัติมาก เพราะได้ถวายอาหารแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า
แต่ที่ไม่อาจใช้ทรัพย์ของตนได้ เพราะถวายไปแล้วนึดเสียดายภาย
หลัง

เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าเสด็จมาถึงบ้าน ภรรยาเศรษฐีจึงถามอีกว่า
"พระคุณเจ้าได้อาหารหรือยัง"

พระปัจเจกพุทธเจ้าตอบว่า "ได้รับแล้วท่านมหาเศรษฐี"

มหาเศรษฐีจึงก้มไปดูอาหารในบาตร เห้นอาหารเต็มบาตรจึงเกิด
เสียดายขึ้นมาทันทีโดยคิดในใจว่า "อาหารมากมายขนาดนี้ ถ้า
เราให้ทาสหรือบริวารกินยังจะได้ประโยชน์ ได้แรงงานกลับคืนมา
เป็นกำไร แต่นี่ให้ไปโดยไม่ได้แรงงานกลับคืนมาเลยจึงเป็นการ
เสียเปล่า ไม่น่าให้เลย " จากนั้นก็ลากลับบ้านไป

ใส่ร้ายคนดี ได้รับโทษทันตา


ใส่ร้ายคนดี ได้รับโทษทันตา
พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี พระโกกาลิกริษยาพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ ได้ทูลพระพุทธเจ้า ให้ร้ายพระมหาเถระทั้งสอง พระพุทธเจ้าทรงตรัสห้ามถึง 3 ครั้ง ก็ไม่ฟัง ได้รับอกุศลกรรมสนองทันตากล่าวคือ ได้เกิดฝีหัวใหญ่ขึ้นทั่วตัว ฝีแตก น้ำเหลืองไหล ได้รับทุกข์เวทนาแสนสาหัส จนขาดใจตาย ไปเกิดในนรกอเวจี เขตปทุมนรก ได้รับทุกขเวทนาเหลือประมาณ
พระพุทธองค์ทรงตรัสแสดงโทษ แห่งการใส่ร้าย(ป้ายสี) ผู้ทำความดี เพื่อเป็นเครื่องสังวรของชาวพุทธ ไว้ดังนี้
- คนพาลเมื่อพูดคำชั่วร้ายออกไป ย่อมได้ชื่อว่า ฆ่าตัวเองด้วยอาวุธ
- ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกตำหนิ หรือติ ผู้ที่ควรได้รับการสรรเสริญ ผู้นั้นชื่อว่า สะสมความชั่วด้วยปาก เขาย่อมไม่ได้รับความสุข
- ความพินาศแห่งทรัพย์สินเพราะการพนันก็ดี พินาศด้วยสิ่งของทั้งหมดก็ดี พินาศพร้อมด้วยตนเองก็ดี ยังนับว่ามีโทษเพียงเล็กน้อย ส่วนบุคคลใด ทำจิตคิดร้ายในท่านผู้ทำความดีทั้งหลาย มีโทษยิ่งใหญ่กว่ามาก
- ผู้พูดจาด้วยจิตอันลามก ชอบติเตียนพระอริยเจ้า บุคคลนั้นย่อมเข้าถึงนรก

โกกาลิกสูตร 15 / 209


Credit:http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2257197

เวรกรรมมีจริงไม่ต้องรอชาติหน้า (กรรมฆ่าแมว)



ผมมีประสบการณ์ส่วนตัวที่อยากจะมาเล่าให้ทุกคนฟังไว้เป็นอุทาหรณ์


เรื่องมีอยู่ว่า ประมาณช่วงปี 2549 ช่วงนั้นผมอายุประมาณ 18 ปี 
เพื่อนผมคนหนึ่งชื่อว่า "เอ็ม" เป็นคนที่มีนิสัยใจคอโหดไม่ค่อยมีความเมตตาต่อสัตว์ 
ชอบจับหมามามัดเชือกแล้ว มัดติดกับมอเตอร์ไซค์ขี่ลากเล่นไปบ่อยอยู่เป็นประจำ 
จนวัยรุ่นแถวบ้านไม่มีใครอยากจะคบกะมันเลย

อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันเกิดเพื่อนผม ผมเห็นกับตาของตัวผมเองเลย 
เอ็มมันจับขาแมวแล้วเอาหัวแมวฟาดกับเสาบ้านตั้งหลายทีแมวก็ไม่ตาย
มันเลยเอาแมวกดน้ำจนตาย แล้วเอาไปเผาไฟลอกหนังออก
เอาเนื้อแมวไปยำมาให้เพื่อน ๆ ในวงเหล้ากินเป็นกับแกล้ม 
ผมบอกกับเพื่อนผมทุกคนว่าไอ้เอ็มเอาแมวมาทำให้กินไม่มีใครเชื่อผม 
จนผมต้องวิ่งไปเอาหัวกับขาแมวมายืนยันทุกคนถึงกับอ้วกแตกคาวงเหล้า

จนเหตุการณ์ผ่านมาถึงช่วงสงกรานต์ปี 2549

ผมกับเพื่อนก็เล่นสงกรานต์กันที่หน้าบ้านซึ่งติดอยู่กับถนนใหญ่ 
พอมีสาว ๆ ขับรถมาผมกับเพื่อน ๆ ก็จะวิ่งไปปะแป้งกัน 
แต่รถบรรทุกขนทรายมาจากไหนไม่รู้เฉี่ยวเอาเอ็มติดใต้ท้องรถยาวไปเกือบ 100 เมตร 
ตอนนั้นผมช็อคทำอะไรไม่ถูก ที่หูผมได้ยินแต่เสียงคนร้องกรี๊ดกันลั่นไปหมด

ผมยังยืนช็อคถือขันแป้งอยุู่เลย ผมไม่กล้าเดินไปดู ผมได้ยินเสียงเพื่อนผมคนหนึ่งตะโกนว่าไอ้เอ็ม ๆ ๆ โดนรถทับ 
ผมเลยรีบวิ่งไปดู ที่ผมจำได้ติดตา คือ ผมยังเห็นมันกระตุก 3-4 ที มันก็นิ่งไป 
ทุกคนช่วยกันดึงมันออกมาจากใต้ท้องรถบรรทุก แต่หัวมันเละไปแถบหนึ่งเลย 
แถมหนังกำพร้าที่ตัวมันลอกขาดเป็นแผ่น ๆ พอหน่วยแพทย์มาถึงมันก็เสียชีวิตไปแล้ว

เหตุการณ์นี้เลยทำให้ผมเชื่อว่าเอ็มคงได้รับผลกรรมจากที่ตัวเองได้ทำไว้
ผมจึงนำเหตุการณ์นี้มาเล่าให้ทุกคนฟังเพื่ออุทาหรณ์ไม่มากก็น้อย
ขอให้ใช้ชีวิตอยู่แบบไม่เบียดเบียนกันเป็นสงบที่สุด
ชีวิตคนเรามันสั้นนักเพราะฉนั้นแล้วจงใช้ทุกวินาทีให้มีค่าให้มากที่สุด
ไม่อิจฉากันไม่เบียนกันเท่านี้ก็สุขใจแล้ว
ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะครับ

"กฎแห่งกรรม" ที่ควรรู้

เรื่องของ "กฎแห่งกรรม" ที่ควรรู้ 

พระพุทธองค์ตรัสถึงกฎแห่งกรรมว่า
อดีตชาติได้แต่ประกอบแต่กรรมดี
จึงได้เกิดมามียศสูงศักดิ์และร่ำรวยในโภคทรัพย์ ผู้ใดบำเพ็ญธรรมมาตลอดจะได้บุญวาสนาไปทุกภพทุกชาติ มนุษย์จงฟังให้ดี
ฟังตถาคตกล่าวผลกรรมของไตรภพผลกรรมของไตรภพเป็นเรื่องใหญ่
จงอย่าดูหมิ่นพุทธพจน์ จงฟังผลกรรมดังต่อไปนี้
 

*ปัจจุบันเป็นขุนนางเพราะเหตุใด
ชาติก่อนนำทองคำสร้างพระพุทธรูป

*สิ่งที่ได้รับในชาตินี้เพราะชาติก่อนทำไว้
ถวายเครื่องทรงสักการะพระพุทธองค์

*ทองคำสร้างองค์ดั่งสร้างตนเอง
เครื่องทรงสักการะคืออาภรณ์ประดับกาย

*ดังนั้นอย่าคิดว่าขุนนางนั้นเป็นง่าย
หากไม่ได้สร้างบุญก่อกุศลแต่ปางก่อนไว้ ไฉนเลยจะได้รับ

*มีรถนั่งมีเรื่อขี่เพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนสร้างถนนทำสะพาน

*มีเสื้อผ้าแพรพรรณประดับกายเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนบริจาคเสื้อผ้าให้ผู้ยากจน

*มีอาหารอิ่มสมบูรณ์เพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนบริจาคข้าวปลาอาหารและน้ำดื่มให้ผู้ยากจน

*ที่ไม่มีจะกินจะใส่เพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนไม่เคยบริจาคทานเลยแม้แต่น้อย

*มีตึกรามบ้านบ้านช่องเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนบริจาคข้าวสารช่วยผู้ยากไร้

*มีบุญมีวาสนาเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนสร้างวัดสร้างศาลา

*มีหน้าตามีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนบูชาพระพุทธรูปดอกไม้เครื่องหอม

*มีปัญญา มีความปราดเปรื่องเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนสวดมนต์สรรเสริญพระนามพระพุทธเจ้า

*มีภรรยาดีมีมรรยาทพร้อมเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนได้สร้างสมบุญกุศลมาร่วมกัน

*สามีภรรยามีอายุยืนยาวเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนได้แต่งริ้วธงประดับหน้าพระพุทธรูป

*มีพ่อแม่อยู่ครบเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนเห็นอกเห็นใจผู้กำพร้า

*ไม่มีพ่อแม่เพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบยิงนกตกปลา

*เลี้ยงลูกไม่รู้จักโตเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบเจ็บแค้นผู้อื่น

*ชาตินี้ไม่มีลูกเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนข่มเหงรังแกลูกชาวบ้าน

*ชาตินี้อายุยืนเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบซื้อสัตว์ปลดปล่อยชีวิต

*ชาตินี้อายุสั้นเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

*ชาตินี้ไม่มีภรรยาเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบผิดประเวณี ข่มขื่นลูกเมียเขา

*ชาตินี้เป็นม่ายเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบดูหมิ่นดูแคลนสามี

*ชาตินี้เป็นทาสเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนไม่รู้จักบุญคุณผู้อื่น

*ชาตินี้มีตาดีเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนซื้อน้ำมันเติมตะเกียงบูชาพระ

*ชาตินี้ตาบอดเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบอ่านหนังสือลามก

*ชาตินี้ปากแหว่งเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนกล่าวร้ายใส่ความผู้อื่น

*ชาตินี้หูหนวกเป็นใบ้เพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนปากร้ายด่าว่าพ่อแม่

*ชาตินี้หลังค่อมเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนหัวเราะคนที่ไหว้พระ

*ชาตินี้มืองอแขนคดเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนเคยตีพ่อแม่

*ชาตินี้ขาเป๋ตีนเป๋เพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนทำลายถนนและสะพาน

*ชาตินี้เป็นวัวเป็นควายเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนเป็นหนีเขาแล้วไม่ใช้คืน

*ชาตินี้เป็นหมูเป็นหมาเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนมีใจคิดหลอกลวงเขา

*ชาตินี้มีสุขภาพแข็งแรงเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนบริจาคยารักษาโรค

*ชาตินี้ติดคุกติดตะรางเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนเห็นคนตกทุกข์ได้ยากแล้วไม่ช่วยเหลือ

*ชาตินี้อดอาหารตายเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนหัวเราะขอทาน

*ชาตินี้ต้องถูกเขาเบื่อยาตายเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนเบื่อปลาในคลอง

*ชาตินี่โดดเดี่ยวทุกข์ทรมานเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนใจบาปคิดแต่จะทำร้ายผู้อื่น

*ชาตินี้แคระแกรนเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนชอบเหยียดหยาบดูแคลนคนรับใช้

*ชาตินี้อาเจียนเป็นโลหิตเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนปลุกปั้นยุแหย่คนอื่นให้แตกแยกกัน

*ชาตินี้ถูกฟ้าผ่าตายเพราะอะไร
เพราะชาติก่อนพูดจาเสียดสีผู้ออกบวช

*ชาตินี้ถูกสัตว์ร้ายกัดตายเพราะเหตุใด
เพราะชาติก่อนก่อศัตรูคู่อาฆาต

*สรรพกรรมที่ก่อไว้กรรมตามสนอง
ต้องตกนรกทุกข์ทรมานจะโทษใครเล่า
อย่าพูดว่ากฏแห่งกรรมไม่มีใครเห็น
กรรมสนองเร็วก็ตกที่ตัวเอง กรรมสนองช้าก็ตกที่ลูกหลาน

*ถ้าไม่ศรัทธาในพระรัตนตรัย ไม่รีบทำทาน
ก็จงดูบุคคลที่มีบุญวาสนาสิเพราะเขาทำบุญไว้แต่ชาติก่อน ชาตินี้บุญจึงตอบสนอง
แม้ปัจจุบันสั่งสมบุญกุศล บุญนั้นก็จะคุ้มครองถึงบุตรหลาน

*หากใครกล่าวร้ายเรื่องกฎแห่งกรรม
ชาติหน้าก็ไม่ได้เกิดเป็นคนอีก(เกิดอยู่ในอบายภูมิ)

*หากเชื่อถือยึดมั่นในกฎแห่งกรรม
ความเจริญมั่งมีศรีสุข ก็จะมาเยือนถึงบ้าน

*หากใครค่อยแนะนำเผยแพร่เรื่องกฎแห่งกรรม
ก็จะเจริญยิ่งๆขึ้นชั่วลูกชั่วหลาน

*หากใครยึดมั่นในกฎแห่งกรรม
ฆาตเคราะห์ภัยพิบัติจะอยู่ห่างไกลตัว

*หากใครเที่ยวบรรยายเรื่องกฎแห่งกรรม
ทุกๆชาติจะเป็นผู้มีปัญญาเลิศ

*หากใครหมั่นสวดมนต์ในเรื่องกฎแห่งกรรม
ชาติหน้าไปถึงไหนถึงไหนก็มีแต่คนนับหน้าถือตา

*หากใครพิมพ์หนังสือเรื่องกฎแห่งกรรมแจก
ชาติหน้าก็จะมีกายมงคลรุ่งโรจน์

*หากใครถามเรื่องกฎแห่งกรรมเมื่อชาติก่อน
ควรศึกษาเรื่องราวของพระกัสสปพระพุทธเจ้าที่มีรัศมีแวววาว

*หากถามเหตุผลของชาติหน้า
ก็ให้ดูพวกที่กล่าวร้ายพระธรรมในเมืองนรก

*หากใครก็ตามยึดมั่นในกฎแห่งกรรม
ก็จะได้ไปเกิดในสุขาวดีแดนพุทธเกษตร

*เรื่องกฎแห่งกรรมในสามโลกนี้พูดกันไม่จบ
สวรรค์ไม่เคยขาดคนจิตกุศลในพระรัตนตรัยเป็นแก้ววิเศษ
รู้จักสละบ้างผลได้รับเหลือคณานับเหมือนดั่งสะสมอริยทรัพย์ไว้ในเซฟที่มั่นคง
จะได้รับผลประโยชน์ทุกๆชาติไป

*หากถามเรื่องชาติปางก่อน
ก็ให้ดูผลที่ได้รับในปัจจุบัน

*หากจะถามเรื่องชาติหน้า
ก็ให้ดูในสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
 

ท่องขุมนรก


ภาพที่ 1 
พระยายมและนายนิริยะบาล กำลังไต่สวนผู้ที่ตายไปแล้วใหม่ๆ โดยเป็นบัญชีเล่มใหญ่ตรวจตราดูโดยละเอียดว่า ใครเมื่อครั้งเป็นมนุษย์นั้นเคยทำบุญทำทานอะไรไว้บ้าง เช่น ผู้ชายท่านก็จะเน้นว่า เคยบวชเรียนเขียนอ่านพระธรรมวินัยไตรสิขาไหม เคยอยู่ในระเบียบวินัยแค่ไหนเพียงไร ถ้าเป็นฆราวาส ท่านก็จะเน้นถามเกี่ยวกับการรักษาศีลห้า เป็นหลักสำคัญ โดยมีเลขา ฯ เปิดบัญชีอ่านอย่างละเอียด พระยายมผู้เสมือนหนึ่งผู้พิพากษานั่งบัลลังก์ คอยตัดสินพิจารณาชี้ขาดอย่างยุติธรรม ถ้าเห็นว่า บุคคลใดทำคุณงามความดี ทำบุญกุศลไว้มากเป็นพระก็เป็นพระที่ดี เป็นเณรก็เป็นเณรที่ดี เป็นประชาชนพลเมืองก็เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ เป็นผู้มีศีลธรรมกัลยาณธรรมประจำใจว่า ผู้นั้นตอบตามความเป็นจริงหรือไม่ เพราะทางยมโลกมีบัญชีเป็นหลักฐาน ใครจะโกหกไม่ได้ มีโทษ ๒ เท่าทีเดียว


ภาพที่ 2
ผู้ที่ขาดเมตตาธรรม มีจิตใจโหดเหี้ยมทารุณ ได้แก่ทำลายล้างผลาญ บีดบี้บีฑากันประหัตประหารเหมือนผักเหมือนปลา โดยถือว่า ตัวเองมีอำนาจ มีอิทธิพล มีพลกำลังจึงประหารหรือเบียดเบียนรังแกผู้ที่มีกำลังน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกสัตว์ที่มีคุณมาก เช่น ช้าง ม้า โค กระบือ ถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่มีพระคุณต่อชาวโลกมาก ยิ่งถ้าทำด้วยจิตใจอาฆาตพยาบาทจองเวรแล้วยิ่งมีเวรมีกรรมติดต่อ เสมือนหนึ่งเงาติดตัวไปฉะนั้น


ภาพที่ 3
ผู้ประพฤติผิดศีลข้อ ๒ อทินนาทาน เช่น ลักขโมยของพระสงฆ์ ฉ้อโกง ตลอดทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง และทำลายทรัพย์สินขอผู้มีพระคุณ เป็นต้น พูดง่าย ๆ ก็คือมีเจตนาลักหรือถือเอาสิ่งของผู้อื่นโดยอาการขโมย โดยที่เจ้าของไม่ได้อนุญาต คือว่า ล่วงเกินสิทธิของผู้อื่น เช่น โกงเลือกสวนไร่นา โกงแผ่นดิน โกงชาติ โกงศาสนา เป็นต้น


ภาพที่ 4
บุรพกรรมของหมู่สัตว์นรก ผู้กระทำผิดศีลข้อ ๓ คือ ข้อ กาเมสุมิจฉาจาร คือประพฤติผิดลูกผิดเมียและผิดสามีของผู้อื่น อย่างนี้เรียกว่า ล่วงประเวณี อันเป็นที่รักที่หวงแหนของผู้ที่เป็นเจ้าของ โดยที่สุดกระทั่งผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย เรียกว่า พรากผู้เยาว์ หรือผิดจารีตประเพณีแบบแผนโบราณ ผิดทำนองคลองธรรม เหล่านี้พระยายมต้องส่งลงนรก หรือปีนต้นงิ้วโดยไม่ต้องสงสัย ฯลฯ สรุปคือเป็นผู้มีราคตัณหามาครอบงำอย่างหนาแน่น


ภาพที่ 5 

เหล่า สัตว์นรกที่มักพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้ความจริง หรือมักใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นก็เหมือนกัน ตลอดทั้งผู้ที่มักโกหกหลอกลวง ด่าว่าบิดามารดา ครูบาอาจารย์ แม้การดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่ามีพระคุณใหญ่หลวง หากใครผิดเข้าคือทำผิดหลายกระทง ผิดศีลข้อที่ ๔ แล้วยังถือว่าเป็นคนอกตัญญูด้วยทั้งยังถือว่าเป็นผู้หาความเจริญไม่ได้และ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ฯลฯ (ถูกตัดสินทำให้เป็น บ้า ใบ้ เสียจริต เป็นต้น)


ภาพที่ 6
พวกเหล่าสัตว์ที่มักลืมตัวขาดสติความ ยับยั้งชั่งใจ ดื่มแล้วฤทธิ์เมาทำให้ประมาทล่อแหลมต่อการขาดศีลข้ออื่นๆ ตามมาด้วย เรียกว่าเป็นทางแห่งความเสื่อมเสีย กล่าวคือ เสียสติ เสียคน เสียเงิน เสียเกียติยศและศักดิ์ศรี ประการสำคัญ ผู้ดื่มสุรามักก่อการอาละวาท มักพาลหาเรื่อง มักอวดเขื่องอวดโต พวกนี้ กะทะทองแดงรออยู่แล้ว


ภาพที่ 7
เพื่อจดจำความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสของตน ไปบอกแก่บรรดาญาติ ให้ทำบุญตักบาตรกรวดนำอุทิศส่วนกุศล หรือช่วยส่งส่วนบุญไปให้ด้วย เพราะทุกข์ทรมานลำบากมากเหลือเกิน เช่น การฆ่าวัว ควาย ต่างๆ ก็จะตกนรก คือ ตัวเป็นคนส่วนหัวเป็นเขาควาย แม้กระทั่งพวกชอบกัดปลา ชนไก่ ก็เหมือนกันจะเป็นครึ่งคนไก่ หรือครึ่งคนครึ่งสัตว์ ดูแล้วไม่เป็นสารรูปคนเลย นี้แหละเรียกว่า เปรตขอส่วนบุญเวลาตายแล้วก็นึกได้ เวลามีชีวิตอยู่ก็มัวแต่หลงระเริง


ภาพที่ 8
พวกมนุษย์จะไร้ศีลธรรม ไร้มนุษยธรรม ไร้หิริโอตัปปะ ไม่มีความเกรงกลังต่อบาปอกุศล มัวเมาประมาท เห็นแก่ตัว ไร้ความเมตตา ไร้จริยธรรม หน้าซื่อใจคด หน้าเนื้อใจเสือ มือถือสาก ปากถือศีล เอารัดเอาเปรียบกัน รังแกเบียดเบียนเข่นฆ่าบีฑามุ่งแต่ประหัตประหารกันไม่เลือกหน้า ทำชีวิตเป็นเหมือนผักปลา โอ้..อนิจจา ! แต่…จะรอดตายเฉพาะผู้ที่จำศีลภาวนาเท่านั้น

ภาพที่ 11ขุม นรกที่พักดวงวิญญาณผู้ที่ตายก่อนกำหนด ภาพบนเป็นเด็กที่ถูกทำแท้งจากครรภ์มารดา ภาพล่างที่คุมขังดวงวิญญาณพวกที่ฆ่าตัวตายกับถูกฆ่าตายและตายโดยประมาท จนกว่าจะครบกำหนดอายุตายจริง จึงนำไป


ภาพที่ 12สะพาน นรก คนที่ก่อกรรมทำบาปและหลังจากตายแล้ว ดวงวิญญาณส่วนใหญ่จะต้องมาเดินผ่านสะพานแห่งนี้ นักการยมบาลจะตีขับให้ตกลงไปเป็นเหยื่อของฝูงงูพิษที่อยู่ในเหวลึกใต้สะพาน มีวิญญาณตกลงไปอยู่ใต้สะพานจำนวนไม่น้อย ต่างส่งเสียงร้องด้วยความตกใจกลัว บ้างกำลังถูกงูพิษฉกกัดคาบเอาไปกิน น่าสังเวชจริงๆ


ภาพที่ 13
ขุมนรกควักลูกตา นักการยมบาลกำลังทรมานคนจำพวกที่ใช้สายตาดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น กับพวกที่ชอบดูภาพลามก


ภาพที่ 14
ขุม นรกห้อยหัวลง (สังฆาฎมหานรกที่ 3) นักการยมบาลกำลังลงโทษทรมาน ดวงวิญญาณจากคนที่ดูถูกให้ร้ายผู้เป็นครูอาจารย์ กับพวกอกตัญญูเนรคุณ และพวกที่ประพฤติผิดศิลธรรมประเพณีความสัมพันธ์ภายในครอบครัว



ภาพที่ 15
ขุมนรกน้ำร้อนลวกมือ (โรรุวมหานรกที่ 4) นักการยมบาลกำลังทรมานดวงวิญญาณจำพวกนักล้วงกระเป๋า ฉกชิงวิ่งราว ลักขโมยและพวกที่หลอกลวง



ภาพที่ 16
ขุม นรกผึ้งพิษ ฝูงผึ้งพิษกำลังรุมต่อยร่างวิญญาณจากคนจำพวกที่แอบอ้างชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทองของผู้บริสุทธิ์ กับพวกที่เบียดบังเอาเงินของศาสนาไปใช้ส่วนตัว และพวกหมอดูที่หลอกรับจ้างทำพิธีสะเดาะเคราะห์โดยมิชอบ


ภาพที่ 17
ด่าน ยมโลก ระหว่างเดือนสิงหาคมกับเดือนกันยายนของทุกปี ทางการยมโลกจะปล่อยพวกผีวิญญาณที่ต้องโทษสถานเบากับพวกที่จะพ้นโทษแล้ว ให้ออกมารับแจกทานและส่วนบุญกุศลที่โลกมนุษย์


ภาพที่ 18
ขุม นรกตัดเครื่องเพศให้หนูกัดแผล นักยมบาลกำลังตัดเครื่องเพศพวกวิญญาณบาป จากคนจำพวกที่มักมากในกามารมณ์ เช่นพวกอลัชชีกับพวกที่ชอบเป็นชู้ด้วยสามี-ภรรยาผู้อื่น

ภาพที่ 19
ขุม นรกอมลูกกระสุนเหล็ก คนจำพวกที่ใช้กลอุบายหลอกล่อให้ผู้อื่นตกหลุมพรางของตนแล้วบังคับขู่เข็ญเอา สิ่งที่ตนต้องการ บ้างใช้เล่ห์ลิ้นพูดหว่านล้อมให้คนหลงเชื่อแล้วกระทำอนาจาร บ้างโกหกมดเท็จเพื่อหลอกลวง เอาทรัพย์สินผลประโยชน์ของผู้อื่นไป บ้างพูดให้ร้ายส่อเสียดทำลายผู้อื่นโดยมิชอบ และพวกที่ติดยาเสพติดชนิดต่างๆ คนจำพวกนี้หลังจากตายไปแล้ว ร่างวิญญาณของพวกเขาต้องถูกทางการยมโลกลงโทษทรมานดังภาพ

ภาพที่ 20
ขุม นรกสาวไส้ นักยมบาลกำลังใช้มีดผ่าอกสาวไส้ร่างวิญญาณของพวกคนที่ ใช้อำนาจหน้าที่ในราชการกระทำทุจริต กับพวกที่ปลูกพืชไร่ใส่ยาฆ่าแมลงยังไม่ทันหมดพิษยาก็นำออกจำหน่าย กับพวกพ่อเล้าแม่เล้าและพวกล้มแชร์ให้สุนัขกิน

ภาพที่ 21
ขุม นรกน้ำมันเดือด นักการยมบาลกำลังทรมานร่างวิญญาณจากคนจำพวกที่เป็นโจรปล้น ตีชิงวิ่งราว ลักขโมย กับพวกที่ฆ่าคนตายด้วยอาวุธ ยาพิษ พวกฉ่อราษฎร์บังหลวง พวกประพฤติผิดกามผู้เป็นสายเลือด พวกอกตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้า และพวกที่ใช้คาถาอาคมทำลายคนด้วยไสยเวทย์

ภาพที่ 22
ขุมนรกตัดลิ้นร้อยกราม นักบวชที่ประพฤติผิดธรรมวินัยทางปาก เช่นกล่าวหาให้ร้ายศาสนาอื่น และเทศนาที่มีความหมายทำนองสองแง่สามง่าม กับพวกที่กล่าวหาให้ร้ายผู้อื่นโดยมิชอบ ตลอดจนใช้วาจาแช่งด่าหยาบคาย หลังจากตายไปแล้ว ร่างวิญญาณจะถูกทรมานดังภาพ

ภาพที่ 23
ขุม นรกบดร่างวิญญาณ พวกที่อกตัญญู พวกฆ่าทำลายชีวิตคนและสัตว์ กับพวกมักมากในกามารมณ์ คนจำพวกนี้เมื่อจบชีวิตลงร่างวิญญาณของพวกเขา นอกจากต้องถูกลงโทษทรมานตามผลกรรมอย่างหนักแล้ว สุดท้ายยังต้องถูกนำตัวมาบดอัดจนร่างแหลกละเอียดครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อปรับปรุงความเป็นคนเสียใหม่ ก่อนที่จะให้ไปเกิดและชดใช้หนี้กรรมยังโลกมนุษย์

ภาพที่ 24
ขุมนรกตัดทอนแขนขา พวกที่ทำมาหาเลี้ยงชีพไม่สุจริตและฉวยโอกาสหวังรวยทางลัด พวกลักขโมยฉกชิงวิ่งราวปล้นฆ่า และพวกที่ใช้กำลังทุบตีพ่อแม่ผู้มีพระคุณ คนจำพวกนี้หลังจากตายไปแล้ว ร่างวิญญาณของพวกเขาต้องถูกลงโทษทรมานอยู่ในขุมนรกดังในภาพ

ภาพที่ 25
ขุม นรกน้ำมันกระเดนใส่ร่าง พวกเขียนหนังสือกับถ่ายภาพลามก และพวกที่ปรุงยาปลุกอารมณ์ทางเพศ พวกโรงพิมพ์ตลอดจนผู้ขาย คนพวกนี้เป็นภัยต่อสังคสเป็นอย่างยิ่ง ก่อความมัวหมองทางด้านจิตใจให้แก่ชาวโลกโดยมิชอบ หลังจากตายไปแล้วร่างวิญญาณของเขา ต้องถูกลงโทษดังในภาพเป็นเวลาอันยาวนาน

ภาพที่ 26
ขุมนรกประหารใจ เป็นขุมนรกประหารใจวิญญาณบาปจากคนจำพวก ใจอิจฉาริษยา ใจอธรรมลำเอียง ใจโหดเหี้ยมอำมหิต ใจที่มีแต่เคียดแค้นพยาบาท ใจที่เห็นแก่ตัวและจงเกลียดจงชังผู้อื่น ใจที่ไม่รู้จักกตัญญูรู้คุณ ใจที่วิปริตหมกหมุ่นแต่กามารมณ์ ใจทรยศคดโกง ฯลฯ

ภาพที่ 27
ขุมนรกกรอกยา นักค้ายาปลอมและสิ่งเสพติด ในที่สุดก็จบลงดังภาพนี้

ภาพที่ 28
ขุม นรกตัดลอกถลกหนังหน้า คนที่ไม่มีความละอาย ต่อการกระทำที่ไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรมของตน หลังจากตายไปแล้วดวงวิญญาณจะถูกนักการยมบาลในนรก ลงโทษทรมานด้วการตัดลอกถลกหนังหน้าออกดังภาพ

ภาพที่ 29
ชาว โลกที่ชอบเจาะหาช่องว่างของกฎหมายเพื่อกระทำความทุจริตกับพวกรับจ้างฆ่าคน อย่างเลือดเย็น พวกปากหวานใจเฉือดคอคอยยุแหย่ให้คนหลงผิดฆ่าทำลายกัน และพวกรับเหมาที่เจตนาลดวัสดุ-แรงงานผิดแบบก่อสร้าง คนจำพวกนี้จิตใจชั่วช้าเลวทรามยิ่งอสรพิษ คิดเอาเปรียบผู้อื่นโดยไม่นึกถึงอะไร ตายแล้วนอกจากต้องรับกรรมทรมานตามขุมนรกต่างๆ แล้ว ท้ายสุดยังต้องถูกลงโทษทรมานในนรกขุมนี้ โดยถูกงูพิษชนิดต่างๆ เจาะร่างวิญญาณ


ใครกำลังทำกรรมขอไหนอยู่ เมื่ออ่านแล้วขอให้ทุกคนจงมีสติและหยุดการกระำทำเหล่านั้นซะ
เพื่อที่นรกจะได้ไม่มีคนแบบคุณเพิ่มไปอีกคน

ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว















กรรมที่ทำให้เราไม่เจอเนื้อคู่

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้ ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิตอธิษฐานหน้าพระพุทธรูปหรือสวดก่อนนอนก็ได้ 

นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสสะจบ )

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต 
อุกาสะทะวารัตตะเยนะ กะตังสัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะขะมามิ ภันเต

'
หากข้าพเจ้าจงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา-มารดาครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์พระอริยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมถึงผู้มีพระคุณและท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจาใจก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วยหากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา
ขออนุญาติมีคู่มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไปขอถอนคำอธิษฐานคำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีตขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกันข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบที่ควร
ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณธนสารสมบัติอุปสรรคใดๆโรคภัยใดๆขอให้มลายสิ้นไปขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลกทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้าไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร
คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติแต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกันการสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง
คาถาบทนี้เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัยและใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมาเพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้ ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ไม่เว้นแม้กระทั้ง
พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้นเพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า
ขอผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อเพื่อสร้างผลบุญบารมีต่อไป 
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
 
ตั้งนะโม ๓ จบ
ชินะปัญชะระ ปะริตตังมังรักขะตุ สัพพะทา หรือ วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ๙ จบ 
(ขอ พระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริต รและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อ)

ชาติที่แล้วคุณทำไรมา


1. เหตุใดคุณมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายจีวรแด่พระสงฆ์

2. 
เหตุใดชาตินี้คุณมีอาหารดีดีรับประทานอยู่เสมอ เพราะชาติก่อนคุณเคยทำทานอาหารแก่คนยากจนในชาติก่อน

3. 
เหตุใดชาตินี้คุณอดอยากยากจนไม่มีเสื้อผ้าดีดีสวมใส่ เพราะคุณตระหนี่ขี้เหนียวไม่ยอมทำทานคนจน ในชาติก่อน

4. 
เหตุใดชาตินี้คุณมีบ้านเรือนให­่โต เพราะคุณเคยถวายข้าวสารเข้าวัดในชาติก่อน

5. 
เหตุใดชาตินี้คุณมีความเจริ­รุ่งเรืองและมีความสุขมาก เพราะคุณเคยถวายเงินสร้างวัดในชาติก่อน

6. 
เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนสวย และรูปงาม เพราะคุณเคยถวายดอกไม้สดบูชาพระด้วยความเคารพในชาติก่อน 
7. 
เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมีปั­­าดี เพราะคุณเคยเป็นพุทธมามกะและทานมังสวิรัติในชาติก่อน

8. 
เหตุใดชาตินี้คุณเป็นที่รักของทุกๆ คนและมีเพื่อนมากมาย เพราะคุณเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคนในชาติก่อน

9. 
เหตุใดชาตินี้คุณมีพ่อ แม่อยู่พร้อมหน้า เพราะคุณเคารพและให้ความช่วยเหลือไม่ดูแคลนคนไร้­าติในชาติก่อน 
10. 
เหตุใดชาตินี้คุณเป็นเด็กกำพร้า เพราะคุณเคยยิงนก ตกปลา และพรากสัตว์ในชาติก่อน

11. 
เหตุใดชาตินี้คุณมีอายุยืนแข็งแรง เพราะคุณเคยปล่อยนก ปล่อยปลา สิ่งมีชีวิตในชาติก่อน

12. 
เหตุใดชาตินี้คุณอายุสั้น เพราะชาติก่อนคุณเคยฆ่าสัตว์มากมาย 
13. 
เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนรับใช้ เพราะชาติก่อนคุณเคยดูถูกเหยียดหยามคนจน 
14. 
เหตุใดชาตินี้คุณมีดวงตาสดใส เพราะชาติก่อนคุณเคยเติมน้ำมันตะเกียงและจุดไฟบูชาพระ

15. 
เหตุใดชาตินี้คุณโง่ปั­­าอ่อนและหูหนวก เพราะชาติก่อนคุณเคยด่าว่าและหยาบคายต่อหน้าพ่อแม่ 
16. 
เหตุใดชาตินี้คุณต้องตายเพราะยาพิษ เพราะชาติก่อนคุณเจตนาวางยาในต้นน้ำลำธารให้เป็นพิษ

17. 
เหตุใดชาตินี้คุณจึงแขวนคอตาย เพราะชาติก่อนคุณใช้ตะข่ายล่าและดักสัตว์ 
18. 
ถ้าชาตินี้คุณฆ่าเขา ชาติหน้าเขาก็จะฆ่าคุณ และจะฆ่ากันไป-มาไม่มีสิ้นสุด

19. 
ถ้าชาตินี้คุณบอกเล่ากฏแห่งกรรม คุณจะเป็นที่เคารพนับถือมากมายในชาติหน้า