
แต่บุคคลผู้ใดซื่อสัตย์ ซื่อตรง ขยันหมั่นเพียร ไม่กินเหล้าเมายา รักเดียว ใจเดียว ครอบครัวเดียว ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่มีผีการพนันเข้าสิง แต่บุคลผู้นั้น “ทอดทิ้งพ่อแม่” ให้แก่ตายไปโดยไม่เหลียวแล บุคคลผู้นั้นจะไม่เจริญและต้องลำบากยากเข็นอย่างแสนสาหัส
การละเมิดในศีล ๕ ซึ่งเป็นคุณธรรมพื้นฐานของมนุษย์ยังไม่หนักเท่ากับคนที่ “อกตัญญู” ต่อพ่อแม่ บุพาการีชนบุคคลที่ให้กำเนิดซึ่งท่านเทิดทูนไว้ให้เป็น “พระอรหันต์”
แต่ถ้าจะให้ชีวิตเลิศและเจริญอย่างสูงสุดต้องมีความ “กตัญญู” เป็นหลักของใจ และมีไซร้ซึ่งศีลเป็นจริยธรรมในการก้าวเดินชีวิต
บุคคลที่มีความ “กตัญญู” ควบคู่กับ “ศีล” ที่ถึงพร้อม บุคคลนั้นถ้าอยู่ในทางโลกจะได้ชื่อว่าเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิตมีความเจริญรุ่งเรืองในมนุษย์สมบัติ และสวรรค์สมบัติบุคคลที่มีความ “กตัญญู” ควบคู่กับ “ศีล” ที่ถึงพร้อม บุคคลนั้นถ้าอยู่ในทางธรรมจะได้ชื่อว่าเป็นพระอริยเจ้า มีความเจริญรุ่งเรืองมีผลไพบูลย์ใน “นิพพานสมบัติ”
ท่านจงโปรดเลือกทางก้าวเดินของชีวิต อย่าให้ผิดทั้ง “ศีล” และ ผิดต่อความ “กตัญญู”
ขึ้นชื่อว่า “กรรม” ผิดแล้วแก้ไขไม่ได้ ผิดแล้วต้องรับผลกรรมนั้นสืบไปแต่ถ่ายเดียว...