
อดีตชาติ จึงร่ำรวยมหาศาลกว่าใครในแผ่นดิน แต่เวลาตายไปกลับ
ไม่มีทายาทสืบสกุลเลย ทรัพย์สมบัติทั้งหมดต้องตกเป็นของหลวง
ซึ่งต้องใช้ทหารเป็นกองทัพขนเข้ามาเก็บไว้ในท้องพระคลัง ๗ วัน
จึงขนเสร็จ
ทำบาปอะไร จึงใช้ทรัพย์สมบัติของตนเองไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น
อาหารการกิน ของใช้ เสื้อผ้าที่นุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยาน
พาหนะ
อาหารดีเลิศมากมายที่เป็นของดีเลศรสทั้งจากในเมืองและจากต่าง
เมือง แต่อาคันตุกะเศรษฐีก็กินไม่ได้เลย กินได้แต่ปลายข้าวกับน้ำ
ผักกาดดองเท่านั้น ผ้าเนื้อดีเยี่ยมที่มีอยู่ในเมืองและที่นำมาจากต่าง
เมืองก็มีมากมายมหาศาล แต่กลับเอามานุ่งห่มไม่ได้เลย ต้องนุ่งห่ม
ผ้าดิบที่แข็งกระด้าง เพราะมีอาการแพ้เป็นผื่นไม่สบายกาย
คฤหาสน์ใหญ่โตรโหฐาน ก็อยู่ไม่ได้ ต้องไปอยู่กระท่อมเล็กๆ มุง
ด้วยใบไม้ พาหนะอย่างหรูราคาแพงประดับด้วยอัญมณีผสมทองคำก็
นั่งไม่ได้ ฉัตรทองคำอย่างดีก็ใช้ไม่ได้
องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ตรัสตอบข้อสงสัยของพระราชาว่า "ขอ
ถวายพระพรมมหาบพิตร อาคันตุกะเศรษฐีได้ทำเหตุไว้ คือ ทำ
เหตุให้ได้ทรัพย์ ๑ และทำเหตุให้ไม่สามารถจะใช้ทรัพย์นั้นได้ ๑"
เหตุที่มีทรัพย์สมบัติมาก เพราะได้ถวายอาหารแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า
แต่ที่ไม่อาจใช้ทรัพย์ของตนได้ เพราะถวายไปแล้วนึดเสียดายภาย
หลัง
เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าเสด็จมาถึงบ้าน ภรรยาเศรษฐีจึงถามอีกว่า
"พระคุณเจ้าได้อาหารหรือยัง"
พระปัจเจกพุทธเจ้าตอบว่า "ได้รับแล้วท่านมหาเศรษฐี"
มหาเศรษฐีจึงก้มไปดูอาหารในบาตร เห้นอาหารเต็มบาตรจึงเกิด
เสียดายขึ้นมาทันทีโดยคิดในใจว่า "อาหารมากมายขนาดนี้ ถ้า
เราให้ทาสหรือบริวารกินยังจะได้ประโยชน์ ได้แรงงานกลับคืนมา
เป็นกำไร แต่นี่ให้ไปโดยไม่ได้แรงงานกลับคืนมาเลยจึงเป็นการ
เสียเปล่า ไม่น่าให้เลย " จากนั้นก็ลากลับบ้านไป